ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หลายคนคงมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและน่าเบื่อหน่าย แต่รู้หรือไม่ว่า การบริหารจัดการภาษีอย่างชาญฉลาด สามารถช่วยให้เราประหยัดเงินและนำไปต่อยอดได้อีกมากมาย
แล้วเราจะบริหารจัดการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อย่างไร?
1. รู้เท่าทันประเภทเงินได้:
กฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งประเภทเงินได้ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
เงินได้จากการจ้างแรงงาน: เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส ฯลฯ
เงินได้จากธุรกิจการค้าและบริการ: กำไรจากการประกอบธุรกิจ
เงินได้จากการประกอบวิชาชีพ: ค่าวิชาชีพ ค่าธรรมเนียม ฯลฯ
เงินได้จากการลงทุน: เงินปันผล ดอกเบี้ย เงินรางวัล ฯลฯ
เงินได้อื่นๆ: เงินรางวัลจากสลากกินรางวัล เงินชดเชยจากประกัน ฯลฯ
2. เข้าใจค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน:
ค่าใช้จ่าย: หักได้เฉพาะเงินที่จ่ายจริงเพื่อหาเงินได้ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเดินทาง ฯลฯ
ค่าลดหย่อน: สิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนดให้หักจากเงินได้สุทธิ เช่น ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ค่าลดหย่อนเงินบริจาค ฯลฯ
3. วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด:
กระจายเงินลงทุน: ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประหยัดภาษี
เลือกใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ศึกษาและเลือกใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น สิทธิประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
4. เก็บเอกสารหลักฐาน:
เก็บใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี และเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน
เก็บเอกสารไว้ให้ครบถ้วนและเป็นระเบียบ เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษี
5. ยื่นภาษีตรงต่อเวลา:
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภพ.ท.ด.) ภายในกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรประกาศ
ชำระภาษีตามจำนวนที่คำนวณไว้
การบริหารจัดการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงแค่เราศึกษาข้อมูล ศึกษาสิทธิประโยชน์ วางแผนอย่างชาญฉลาด และเก็บเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน เราก็สามารถประหยัดภาษีและนำเงินไปต่อยอดได้อีกมากมาย
Comments