นิติบุคคลเตรียมตัวให้พร้อมกับ Easy E-Receipt 2.0 ปี 2568 ก่อนสิ้นปี!
- Acweissor
- Dec 27, 2024
- 1 min read

ก่อนจะเข้าสู่ปีใหม่ 2568 มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เป็นโอกาสสำคัญที่ทุกเจ้าของธุรกิจต้องทราบ เพื่อให้การจัดการภาษีของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นี่คือสิ่งที่คุณควรทำเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม:
1. รู้จักกับ Easy E-Receipt 2.0
Easy E-Receipt 2.0 คือโครงการที่ช่วยให้บุคคลผู้เสียภาษีสามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือบริการที่จ่ายจริงในระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น:
กลุ่มสินค้า-บริการที่สามารถใช้สิทธิ Easy E-Receipt
วงเงินแรก 30,000 บาท
ซื้อสินค้า-บริการทั่วไปจากร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
วงเงิน 20,000 บาท
ร้านวิสาหกิจชุมชน SME และร้านค้า OTOP ที่อยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
กรณีซื้อสินค้า-รับบริการจากร้านค้าที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องเป็นค่าซื้อสินค้า-บริการดังนี้ และมี e-Receipt เป็นหลักฐาน
ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร รวมถึงที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK)
ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับ กรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อ กรมส่งเสริมการเกษตร
ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
2. บันทึก e-Receipt ให้ถูกต้อง
สำหรับการเข้าร่วมโครงการนี้ คุณจะต้องมี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เป็นหลักฐานการซื้อสินค้าหรือบริการ ดังนั้นธุรกิจของคุณควรพร้อมในการออก e-Receipt ให้กับลูกค้าและตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ระบบที่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เพิ่มโอกาสในการขาย
มาตรการนี้ช่วยให้ประชาชนเสียภาษีสามารถลดภาษีได้มากขึ้น และในขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในการโปรโมตสินค้าหรือบริการให้มีการซื้อขายที่มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ
Acweissor พร้อมให้คำแนะนำ!
ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการในการเตรียมความพร้อมด้านการจัดการภาษี, การใช้ e-Receipt, และการวางแผนการเงินสำหรับธุรกิจของคุณ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในปีหน้า
📞 ติดต่อเราเพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม: 065-889-8639
Comments